โพสเมื่อ : 6 มีนาคม 2568
กิจกรรม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2568 ณ Land breeze Resort จังหวัดนครราชสีมา เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ความสำเร็จ และแนวทางการพัฒนาของกลุ่มอาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพของผู้หญิง การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญในการสร้างความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน กลุ่มอาชีพ และหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้กลุ่มอาชีพสามารถเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมีกลุ่มอาชีพที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 37 กลุ่มหน่วยงานภาครัฐทั้งส่วนกลางและพื้นที่ จำนวน 4 หน่วยงาน
ภายในงาน มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ รวมถึง คลินิกธุรกิจ จากหน่วยงานภาครัฐที่ให้ข้อมูลสำคัญ อาทิ :
จากการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ กลุ่มอาชีพได้สรุปปัจจัยความสำเร็จออกเป็น 4 ด้านสำคัญ ได้แก่ :
การรวมกลุ่มของผู้หญิงในอาชีพต่าง ๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนให้กับอาชีพของกลุ่ม การแลกเปลี่ยนความรู้และทดลองแนวทางใหม่ ๆ โดยไม่ยึดติดกับบทบาททางเพศ เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการเรียนรู้และพัฒนา ภายในกลุ่มเองจำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วและสำรวจตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถผลิตสินค้าและบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การกำหนดราคาสินค้าและบริการภายในกลุ่มช่วยป้องกันปัญหาการตัดราคา ซึ่งอาจนำไปสู่ความไม่สมดุลในการกระจายรายได้ในอนาคต อีกทั้งการประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ผ่านเครือข่ายหรือหน่วยงานในพื้นที่ยังช่วยให้กลุ่มขยายตลาดและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้อย่างกว้างขวางขึ้น ที่สำคัญ กลุ่มอาชีพผู้หญิงจำเป็นต้องมีพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ถ่ายทอดประสบการณ์ และพัฒนาฝีมือ รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตทางอาชีพอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้กลุ่มอาชีพสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพและได้รับการรับรองตามมาตรฐานที่กำหนด การปรับเปลี่ยนแนวคิดและพัฒนาองค์ความรู้เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการนี้ โดยกลุ่มอาชีพต้องมุ่งเน้นไปที่การรับรองมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐาน อย. หรือ OTOP ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่ าผลิตภัณฑ์ แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ซึ่งการรักษาคุณภาพสินค้าอย่างต่อเนื่องเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิมและดึงดูดลูกค้าใหม่ ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มสามารถเพิ่มราคาขายสินค้าได้มากขึ้น ในระยะยาว การได้รับมาตรฐานยังช่วยให้กลุ่มสามารถแข่งขันในตลาดที่กว้างขึ้น ทั้งในระดับประเทศและระดับสากลต่อไปในอนาคต
การบริหารจัดการรายได้และผลประโยชน์ภายในกลุ่มอาชีพต้องคำนึงถึงความเป็นธรรมเพื่อความยั่งยืน กลุ่มอาชีพผู้หญิงสามารถออกแบบโมเดลการจัดการรายได้ตามบริบทของกลุ่มตัวเอง เช่น การจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนหรือเงินกู้เพื่อให้สมาชิกสามารถนำไปต่อยอดอาชีพของตนเอง หรือการสร้าง "ธนาคารวัตถุดิบ" เพื่อให้สมาชิกสามารถยืมวัตถุดิบไปใช้ก่อนแล้วคืนกลับในภายหลัง นอกจากนี้ กลุ่มอาชีพยังพิจารณาการแบ่งผลกำไรเพื่อสนับสนุนสาธารณประโยชน์ โดยการหักกำไร 5%-10% (ตามข้อตกลงของกลุ่มอาชีพ) เพื่อจัดตั้งเป็นกองทุนพัฒนาชุมชน ซึ่งช่วยให้สมาชิกสามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จำเป็นต่อการพัฒนาอาชีพ และส่งเสริมให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โมเดลการบริหารรายได้ที่เป็นธรรมนี้ช่วยสร้างความมั่นคงและส่งเสริมความร่วมมือภายในกลุ่มและชุมชนได้เป็นอย่างดี
การกำหนดแผนธุรกิจที่ชัดเจน เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้กลุ่มอาชีพสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน การกำหนดแผนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว จะช่วยให้กลุ่มสามารถเห็นภาพรวมของโอกาสทางธุรกิจและแนวทางการขยายตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการพัฒนาแผนธุรกิจอาจเริ่มจากการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดในอดีตและนำมาปรับปรุงให้เกิดเป็นแนวทางใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางธุรกิจ เช่น Business Model Canvas (BMC) และ SWOT Analysis จะช่วยให้กลุ่มสามารถประเมินสถานการณ์ของตนเองได้ดีขึ้น และวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับสภาพตลาด
การประชุม "She Thrives: STRONGER Together" ไม่เพียงแต่เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนากลุ่มอาชีพให้เติบโตไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน ด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่ง มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ และการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน กลุ่มอาชีพจะสามารถขยายโอกาสทางธุรกิจและมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชุมชนต่อไป
#SheThrives #STRONGERTogether #เครือข่ายกลุ่มอาชีพผู้หญิง #พัฒนาอย่างยั่งยืน