เปิดมุมมองคนเมือง “ทิปปี้ สุพรทิพย์” เซเลบริตี้สาวเมื่อครั้งได้ทำงานในพื้นที่ ที่เธอไม่เคยสัมผัส

ทิปปี้ สุพรทิพย์ ช่วงรังษี หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตาเธอในฐานะเซเลบริตี้สาวสวย ผู้มีสไตล์ในการแต่งตัว แม้เธอจะเป็นนักธุรกิจที่คร่ำหวอดในวงการพีอาร์ เอเจนซี ติดอับดับต้นๆของเมืองไทย แต่หมวกอีกใบที่เธอใส่อยู่นั้นการเป็นกรรมการมูลนิธิรักษ์ไทย สมาชิกองค์การแคร์นานาชาติ โดยเมื่อเริ่มย่างก้าวเข้ามาทำงานนั้น เธอเคยได้รับเลือกจากแคร์นานาชาติให้เป็นตัวแทนผู้หญิงนักพัฒนา 60 คนจากทั่วโลก
อะไรทำให้นักธุรกิจสาวคนนี้ สนใจงานด้านภาคประชาสังคม งานสาธารณกุศลที่ไม่ได้ผลตอบแทนเป็นกำไรเหมือนวงการที่เธอคุ้นชิน วันนี้เธอให้เกียรติเปิดบ้านเพื่อร่วมบันทึกเทปสัมภาษณ์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแรงบันดาลใจที่เธอค้นพบจากการร่วมงานกับมูลนิธิรักษ์ไทย

เหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมเป็นกรรมการมูลนิธิรักษ์ไทย
โดยปกติทิปทำงานโครงการการกุศล (Charity Project) อยู่แล้ว จะไปทำเองบ้าง หรือบางทีก็ทำร่วมกับกลุ่มเพื่อนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการช่วยเด็ก สร้างโรงพยาบาลต่างๆ คราวนี้เพื่อนที่เป็นกรรมการมูลนิธิรักษ์ไทยอยู่แล้วก็ชักชวน ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีเวลามากพอสำหรับภารกิจนี้เพราะเราเดินทางไปต่างประเทศค่อนข้างบ่อย

แต่พอได้มาทำงาน ก็เห็นความมุ่งมั่นของทีมงาน ได้ไปลงพื้นที่จริง ปรากฎว่ามันเป็นโอกาส ทิปได้เข้าไปดูการทำงานเรื่องการดูแลเด็กในชุมชน กลุ่มแรงงานข้ามชาติ ได้ไปทำฝายร่วมกับชุมชนในพื้นที่กันดารต่างๆ เราได้เห็นความทุ่มเทแบบไม่มีขีดจำกัด จากที่แต่ก่อนเราเห็นงานที่มันมีเส้นแดน ทำเพื่อคนไทย ทำเพื่อคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้

แต่พอเจองานรักษ์ไทยเรารู้สึกว่าเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่มีพรมแดนของเชื้อชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง เลยรู้สึกว่ามันตอบโจทย์ตัวเอง

เซเลบริตี้กับความเป็นคนเมืองเมื่อต้องไปลงพื้นที่ไปทำงาน

จริงๆแล้ว ลงพื้นที่มันไม่น่าประทับใจ เพราะมันลำบาก เรื่องสบายตัว เราไม่สบายตัวอยู่แล้ว (หัวเราะ) เนื่องด้วยงบประมาณที่จำกัด ไม่มีพื้นที่ที่ให้เลือกในชุมชนมากนัก ต้องตื่นเช้ามากและทำงานถึงค่ำ เพราะฉะนั้นมันไม่ประทับใจในเชิงความสวยงาม แต่เป็น “ความชื่นใจในการทำงาน” ว่าเราได้โอกาสมากกว่าคนอื่นที่มาทำอะไรแบบนี้ พื้นที่แรกๆที่ทิปไปจะเป็นพื้นที่ชานเมืองกรุงเทพ เดินทางง่าย เราไปในชุมชนที่มีแรงงานข้ามชาติ โรงเรียนเด็ก ที่ก่อตั้งขึ้นเพราะอยากให้เวลาที่คุณพ่อคุณแม่แรงงานข้ามชาติไปทำงาน ลูกๆพวกเขาต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้เรียนหนังสือ โดยในนั้นจะมีจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ประทับใจคำพูดของเจ้าหน้าที่ที่เขาบอกว่า

“อยากให้เด็กทุกคนที่เติบโตในแผ่นดินไทย ได้รักประเทศไทย ไม่อยากให้คิดว่าเขาไม่ใช่คนไทย”

เพราะว่าทุกคนมีส่วนที่เชื่อมโยงกันเสมอ เราไม่ได้มีขอบเขตจำกัด เราเป็นหนึ่งเดียวกัน มนุษย์ทุกคนพึ่งพากันเสมอ เด็กกลุ่มนี้จะได้เติบโตมาแบบมีประสิทธิภาพ มีความเข้าใจในการใช้ชีวิตไม่ว่าเขาจะเติบโตต่อในเมืองไทยหรือกลับไปใช้ชีวิตต่อในประเทศเขา ถ้าเป็นการลงพื้นที่ไกลๆ ทิปได้เดินทางไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทิปได้ไปเจอกลุ่มสตรี กลุ่มแม่บ้านหลายๆกลุ่มคือเขาน่ารักมาก เราเพิ่งรู้จักกันแต่เขารักเรามาก เขาทำเสื้อผ้าให้เราใส่เหมือนเขา เป็นชุดสุภาพสตรีทางภาคใต้ เขาตั้งใจตัดเย็บให้เรามาก

“เราเป็นมนุษย์อยู่ในเมือง เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ทำไมเขามีหัวใจให้เรามากขนาดนั้น เราเคยถามกลับไปว่า ทำไมใจดีกับเราจังเลยทั้งๆที่เราไปครั้งแรก เขาตอบกลับมาว่า การไปหาเขาไม่ใช่เรื่องง่าย มันเดินทางลำบากและดูไม่ปลอดภัย เขาบอกว่า เขาเห็นความตั้งใจของเรา ที่อยากไปทำงานกับเขา คุยกับเขาเรื่องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สิ่งที่ตอบกลับมาคือมันเกินคุ้มมากด้านจิตใจ คนเรารักกันโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ มันงดงามจังเลย”

นอกจากนี้ก็ได้ไปพื้นที่ภาคเหนือ ที่ที่ไปเป็นป่าหมดเลย ได้ใช้แรงงานสุดชีวิต ไปร่วมกับชุมชนทำฝาย ซึ่งปกติแล้วเราไม่ได้ทำ(หัวเราะ) พอไปแล้ว เราได้เข้าใจธรรมชาติมากขึ้น เราไปอยู่ในป่า เวลาเห็นในรูปเราจะพบว่าธรรมชาติงดงามกับเรา

“เราไปเห็นว่าธรรมชาติเขามีทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนมนุษย์ ถ้าเรารักเขา เขาก็รักกลับ ถ้าเราโหดร้ายกับเขา เขาก็โหดร้ายกับเรากลับเช่นกัน ถ้าเราไปทำร้ายสภาพแวดล้อม ทำให้เขาไม่สมดุล ไปทำลายป่าไม้ เขาก็ทำให้เกิดน้ำท่วมได้เช่นกัน เราต้องทำความเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ใช่เพียงการเข้าใจมนุษย์กับมนุษย์ด้วยกันเอง แม้ตอนแรกเราจะคิดว่าธรรมชาตินั้นไม่มีชีวิต แต่จริงๆแล้ว เขามีชีวิตเขาเป็นพลังงานที่ขับเคลื่อนไปกับตัวเรา”

อย่างที่เพิ่งไปมาไม่นาน รู้สึกดีมาก ได้ไปกับทีมผู้บริหารของบริษัท PepsiCO ซึ่งมาจากต่างประเทศ เรายังมีความเข้าใจอยู่บ้าง เพราะเราเคยลงพื้นที่แต่พวกเขาเขายังไม่เคยทำ ปรากฎว่าทุกคนสนุกมาก มีการแบ่งกลุ่มกันทำงานแต่มีความสามัคคีในเชิงกลุ่ม นอกจากนี้เราได้เห็นว่าผู้บริหารเขาจะ มีความ Productive และตั้งเป้าว่าต้องทำอะไรให้สำเร็จ เพราะฉะนั้นเลยทำงานเสร็จเร็วมาก สร้างฝายกันได้หลายฝายเก่งมาก

“ที่เราไปในความเป็นจริงเรานึกว่าเราไปให้ ไม่ใช่หรอก เขาให้เรา และเราก็ให้ตัวเองด้วย ดีที่สุดคือการทำประโยชน์ให้ตัวเอง การให้คุณค่าตัวเองแล้วก็ให้เวลากับตัวเอง เพราะฉะนั้นพอได้ไปทำงานกับรักษ์ไทยแล้วก็ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่เราให้ไป มันสะท้อนกลับทุกสิ่งอย่างและมากกว่านั้นด้วยซ้ำไป”

Empowering Woman : มุมมองของตนเองต่อเรื่องการส่งเสริมบทบาทของผู้หญิง

        ปัจจุบันรักษ์ไทยเดินหน้าเรื่องของ Empowering Woman อยู่แล้ว คือเราเน้นให้ผู้หญิงมีบทบาทและขับเคลื่อนการทำงานแบบผู้หญิง ต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้คิดจะแข่งกับผู้ชาย และเราก็ไม่ได้รณรงค์เรื่องความเท่าเทียมแต่อย่างใด แต่เรารณรงค์เรื่องบทบาทที่มีความสำคัญของสตรี ซึ่งจะเป็นแรงที่สำคัญในการขับเคลื่อนสนับสนุนผู้ชายหรือภาพรวมที่ดีได้ ประเทศไทยมีประชากรผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ ผู้หญิงมีบทบาทมาก ผู้หญิงเป็นตัวหลักของครอบครัว การหล่อหลอมให้เด็กคนหนึ่งเติบโตมาอย่างมีคุณภาพก็เกิดจากแม่ ผู้หญิงทำงานได้หลายอย่าง Multitask ดังนั้นการส่งเสริมให้ผู้หญิงมีความคิดริเริ่ม มีโอกาสในการต่อยอด พัฒนาธุรกิจในสิ่งใหม่ๆ เป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กๆ จึงเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างมาก

         ครั้งหนึ่งทิปไปลงพื้นที่ทางภาคอีสาน ไปเห็นการทำงานที่รักษ์ไทยส่งเสริมการทอผ้าของผู้หญิง ปรากฏว่าผ้าที่ทำออกมาขายดีมากค่ะ เพราะมีบริษัทใหญ่รับไปขายให้นักท่องเที่ยว ตอนนั้นรักษ์ไทยได้สร้างห้องเรียนเล็กๆ ในโรงงานตัดเย็บ เพื่อให้เด็กได้อยู่ใกล้แม่ เพราะเราเชื่อว่าเด็กไม่ควรอยู่ห่างจากแม่ แม่คือต้นแบบหรือ Role Model ที่ดี ที่ให้พลังความอบอุ่น ความรักของแม่ยิ่งใหญ่มากกว่าไปจ้างคนเลี้ยงหรือไปอยู่กับพี่เลี้ยง เราเห็นบรรยากาศตอนที่เด็กๆเรียนหนังสือ โดยมีครูอาสามาสอน พอพักเบรค คุณแม่ก็มาทานข้าวหรือเล่นกับลูก สิ่งที่เห็นคือการสอดประสาน ทั้งการส่งเสริมอาชีพและเสริมพลังความเป็นแม่ ที่หล่อหลอมกันแล้วงดงามมากๆ ดีใจค่ะที่ตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่งของตรงนั้น ได้ไปเห็นว่าผู้หญิงสามารถทำงานได้แบบองค์รวม แล้วก็ดูแลครอบครัวได้

สิ่งที่อยากฝากเนื่องในโอกาสมูลนิธิรักษ์ไทยครบรอบ 25 ปี

รักษ์ไทยเป็นองค์กรที่มีแนวนโยบายการทำงานชัดเจนมาก เพียงแต่หลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่าจริงๆแล้วรักษ์ไทยทำอะไร เนื่องจากที่ผ่านมา อาจไม่ค่อยประกาศ ไม่ได้บอกผู้คน ในโอกาสครบรอบ 25 ปี อยากบอกทุกท่านว่า รักษ์ไทยทำอะไรมากกว่าที่คุณนึกถึง เราเข้าถึงรากของชุมชน รากของปัญหา ตระหนักถึงความเป็นมนุษย์ “Human Being” โดยไม่ได้จำกัดหรือแบ่งแยกว่าใคร ชนชาติใด อยากจะให้ผู้บริจาค (Donor) รับทราบว่าองค์กรแห่งนี้ได้นำเงินของเขาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้คนอย่างคุ้มค่า สำหรับคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และต้องการนำเงินส่วนตัวไปช่วยเหลือองค์กรสาธารณกุศล อยากฝากรักษ์ไทยไว้พิจารณาด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

หลังจากการบันทึกเทปสัมภาษณ์จบลง เธอได้ร่วมแลกเปลี่ยนและพูดคุยงานกับทีมงานรักษ์ไทย และได้ทราบข่าวว่า กลุ่มมุสลิมะฮ์บ้านน้ำใส จ.ปัตตานี ที่เธอเคยไปเยี่ยมเยือนเมื่อ 2-3 ปี ก่อน ฝากชุดที่พวกเขาย้อม วาดลายและตัดเย็บเองมาให้เธอ หลังจากนั้นเธอไม่ลังเลที่จะไปเปลี่ยนชุด เพื่อให้ทีมงานบันทึกภาพของเธอเอาไว้และส่งต่อกลับไปให้พี่ ๆ ทันทีที่เปิดประตูออกมา สายตาของทีมงานรักษ์ไทยทั้ง 3 คู่ ต่างจับจ้องไปที่เธอ เซเลบริตี้สาวสวมใส่ชุดแฮนด์เมด สีม่วงลายขาวของสตรีชาวใต้ได้อย่างพอดีตัวและสวยงาม ราวกับว่าพวกเขาเดินทางมาวัดตัวเธอถึงย่านใจกลางเมืองแห่งนี้

บทสนทนาวันนี้เต็มอิ่มไปทั้งความประทับใจในมิตรภาพของทั้งผู้ให้และผู้รับ ทีมงานเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า พลังของผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่ลุกขึ้นมาทำงานเพื่อสังคมอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบให้ดีขึ้นได้ในทันตา แต่เชื่อได้อย่างสนิทใจว่า การก้าวผ่านและแง้มกำแพงจากโลกธุรกิจ จากโลกของคนเมือง ไปพบปะเพื่อช่วยเหลือผู้คนในระยะเวลาหลายๆปีที่ผ่านมา จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครได้อีกหลายคนว่าพลังงานจากคนเพียงไม่กี่คน ก็มีส่วนช่วยให้โลกนี้ดีขึ้น อย่างที่คุณทิปปี้ได้สัมผัสและลงมือทำมาแล้ว

เปิดมุมมองคนเมือง “ทิปปี้ สุพรทิพย์” เซเลบริตี้สาวเมื่อครั้งได้ทำงานในพื้นที่ ที่เธอไม่เคยสัมผัส

Other Stories

ผู้หญิงมีหน้าที่แค่เลี้ยงลูก ?

Acquiring a leadership mind-set

ขยะทะเลปัญหาสำคัญของคนเกาะเต่า

Baan Khor Khuang Nok, Tambon Bor Klua Tai, Amphoe Bor Klua, Nan Province